Margins
เพชรพระอุมา book cover 1
เพชรพระอุมา book cover 2
เพชรพระอุมา book cover 3
เพชรพระอุมา
Series · 15
books · 1975-2004

Books in series

เพชรพระอุมา เล่ม 1 ตอน ไพรมหากาฬ book cover
#1

เพชรพระอุมา เล่ม 1 ตอน ไพรมหากาฬ

1975

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหญ่ เมื่อจอมพราน 'รพินทร์ ไพรวัลย์' รับเป็นมัคคุเทศก์นำทางให้คณะนายจ้าง อันมี ม.ร.ว.เชษฐา วราฤทธิ์, ม.ร.ว.หญิง ดาริน วราฤทธิ์ และ พ.ท.ไชยยันต์ อนันตรัย เพื่อตามหาพรานชดน้องชายที่หายสาบสูญไปกับการแสวงหาขุมทรัพย์พระอุมาเทวี จอมมัคคุเทศก์พร้อมสี่พรานคู่ใจ บุญคำ จัน เกิด เส่ย พาคณถนายจ้างสู่ดินแดนอันไม่เคยปรากฏในภูมิศาสตร์โลก บนเส้นทางดงดิบที่พร้อมจะปลิดชีวิตผู้มาเยือนได้ทุกวินาที กล่าวกันว่า หากขุนเขาพระศิวะมีจริง หากขุมทรัพย์พระอุมา ไม่ใช่เพียงตำนานเล่าขาน ผู้ที่จะบุกบั่นนำไปถึงได้ ก็คงจะมีแต่ 'จอมพราน รพินทร์' คนนี้คนเดียวเท่านั้น
เพชรพระอุมา เล่ม 2 ตอน ไพรมหากาฬ book cover
#2

เพชรพระอุมา เล่ม 2 ตอน ไพรมหากาฬ

2004

ครั้นแล้วในพริบตานั่นเอง พรานใหญ่ก็ประจันหน้ากับไอ้มหาวายร้ายอย่างจัง งาสีเหลืองจัด ทอดลงมาเกือบจะลงดิน หูข้างหนึ่งแหว่งขาดเป็นริ้ว ผิวกายสีโคลนหมาดๆ โผล่พรวดออกมาจากดงรวกอันหนาทึบสลับซับซ้อน ทันทีที่ภูเขาลูกนั้นออกมาพ้นกอรวก มองเห็นได้ถนัดตลอดทั้งตัว ก็ดูประหนึ่งว่าโลกรอบด้านจะถูกบดบังมืดมิดด้วยราหู จะมีสติมั่นคงอาจหาญสักเพียงใดก็ตาม บัดนี้ รพินทร์ ไพรวัลย์ มีความรู้สึกเย็นวาบ ตั้งแต่เส้นผมลงไปจนกระทั่งจรดปลายเท้า
เพชรพระอุมา เล่ม 3 ตอน ไพรมหากาฬ book cover
#3

เพชรพระอุมา เล่ม 3 ตอน ไพรมหากาฬ

2004

พรานใหญ่ก็พลันตะลึงพรึงเพริดไปในวาระนั้น ร่างงามอันเปล่าเปลือยของราชสกุลสาวนอนคว่ำหนุนท่อนแขนผึ่งแดดที่ส่องทะลุกิ่งใบไม้ลงมาเป็นจุดพราวจับอยู่บนผิวอร่าม ราวกับท่อนงาสลักกลึงเกลานั้นเทพธิดาไพร ถ้ามีจริงก็คงไม่งามเท่า เลือดในกายของรพินทร์เย็นเฉียบประหนึ่งจะจับเป็นก้อน ความตะลึงของเขา มิใช่อยู่ที่เรือนร่างอันสว่างโพลนหมดจดนั้น หากแต่เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่ง ณ บัดนี้ อยู่ห่างตะโพกกลมกลึงเพียงสองวา มันคืองูเห่าดงตัวมหึมา!!
เพชรพระอุมา เล่ม 4 ตอน ไพรมหากาฬ book cover
#4

เพชรพระอุมา เล่ม 4 ตอน ไพรมหากาฬ

2004

คุณพระช่วย! หล่อนเห็น...ร่างของมนุษย์คนหนึ่งนั่งคร่อมมาบนหลังเสือโคร่งตัวนั้น ป่ารอบด้านดูมืดมิดไปหมด เห็นวาวจ้าอยู่เฉพาะดวงตาสองคู่เท่านั้น มันวิ่งปราดมาที่ต้นตะเคียนซึ่งหล่อนและพรานใหญ่ซ่อนตัวอยู่ มนุษย์หรืออะไรชนิดหนึ่งที่นั่งคร่อมมาบนหลังของมัน ตบมือครั้งหนึ่งแล้วแหงนหน้าชี้ขึ้นมายังคาคบ...ตำแหน่งที่หล่อนแลรพินทร์นั่งอยู่ เสือร้านก็แหงนดวงตาวาวตามขึ้นมาเห็นในบัดนั้น ดารินได้ยินเสียงโฮกสนั่นพร้อมๆ กับร่างของลายพาดกลอนที่พุ่งเผ่นทะยานขึ้นมา แล้วบัดนั้นเอง กัมปนาทของกระสุนดินขับแรงสูงจาก .357 ก็ระเบิดขึ้นกึดก้องใกล้ๆ ตัวหล่อน
เพชรพระอุมา เล่ม 5 ตอน ดงมรณะ book cover
#5

เพชรพระอุมา เล่ม 5 ตอน ดงมรณะ

2004

เชษฐาตะลึงพรึงเพริด เย็นสมองเข้าไปถึงไขสันหลัง เพราะความกะทันหันไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน จากสายตาที่มองผ่านความมืดออกไป เงารางๆ ที่นั่งเกาะไหวอยู่นั้น ทรวดทรงน่าจะเป็นมนุษย์! ถันเปลือยงามสล้างทั้งคู่ กระเพื่อมไหวอยู่น้อยๆ เชษฐาจ้องโดยไม่กะพริบตา แล้วก็ผงะ กายแข็งทื่อเหมือนถูกสาปให้กลายเป็นหิน เมื่อเห็นดวงหน้าของ ดาริน วราฤทธิ์ น้องสาวของเขานั่นเอง! ทั้งๆ ที่เจ้าของดวงหน้านั้นอนหลับอยู่ในแค้มป์ ข้างๆ กายเขาในขณะนี้
เพชรพระอุมา เล่ม 8 ตอน ดงมรณะ book cover
#8

เพชรพระอุมา เล่ม 8 ตอน ดงมรณะ

2004

ทุกคนเห็นร่างขาวเหมือนหยวกร่างหนึ่ง ในลักษณะบูชายัญ ร่างนั้น ถูกมัดติดอยู่ตรงฐานในระหว่างขาทั้งสองของเทวรูป ใช่! มาเรีย ฮอฟมัน แม่สาวผมทองอย่างแน่นอน ทั้่งร่างอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ไม่มีสิ่งใดปกปิดกายแม้แต่นิดเดียว อันเป็นลักษณะเดิมกับที่หล่อนได้ถูกคร่าตัวมาจากธารน้ำ บนศีรษะถูกสวมไว้ด้วยมาลัยดอกไม้ป่า มีช่อเอื้องหลากสี ประดับกันอยู่รอบๆ กาย และทั่วบริเวณที่หล่อนถูกมัดอยู่เต็มไปหมด แลดูประหนึ่ง หล่อนจะเป็นภาพปั้นของเทพีแห่งปวงบุปผาชาติ ฉะนั้น
เพชรพระอุมา เล่ม 10 ตอน จอมผีดิบมันตรัย book cover
#10

เพชรพระอุมา เล่ม 10 ตอน จอมผีดิบมันตรัย

2004

ที่เห็นแข็งทื่อ สงบนิ่ง และเฉยเมยเท่าๆ กับหินภูเขาก้อนหนึ่งอยู่บนนั้น นั่นแหละ มันคือสิ่งที่จอมพรา และผู้ร่วมคณะทุกคนโรมรันเผชิญหน้ากับมันมาแล้วอย่างโชกโชน โดยไม่สามารถจะกำจัดมันลงได้เลย นอกจาก...หวุดหวิดจวนเจียนจะต้องพลีชีวิตสังเวยมันนับครั้งไม่ถ้วน มันเป็นเป้าหมายสำคัญที่ทุกคนคอยระมัดระวัง และจดจ่อหวายระแวงอยู่ จนแทบไม่เป็นอันทำอะไรได้ มันล่ะ เจ้ากาฬพยัคฆ์! ไอ้โคร่งตัวดำขนาดม้าลูกผสม ร่างอันเต็มไปด้วยอิทธิฤทธิ์อำนาจ มันคือ...ภาคหนึ่งของเข้าผีดิบมันตรัย ผู้แก่กล้าอาคม!
เพชรพระอุมา เล่ม 12 ตอน จอมผีดิบมันตรัย book cover
#12

เพชรพระอุมา เล่ม 12 ตอน จอมผีดิบมันตรัย

2004

เสียงพรึบ! มันทำลายความเงียบขึ้นอย่างจู่โจมที่สุด จอมพรานหันขวับ เงาดำมืดเป็นรูปปีกที่กางแผ่กว้างก็ถลันเข้าถึงตัว เขาย่อตัลาต่ำ เรี่ยวแรงมีเท่าไหร่ก็ทุ่มลงไปในหอกไม้ และเสือกสวนขึ้นไปเต็มเหนี่ยว มันปักสวบเข้าไปกลางอกของเจ้าสิ่งนั้นอย่างถนัดถนี่ แล้วหักสะบั้นด้วยความแรงที่ันถาโถมเข้าใส่ ร่างของเขาเองและบุญคำ หงายหลังก้นกระแทกลงกับพื้น พร้อมกันนั้นก็ปรากฏเสียงร้องกรี้ดแหลมสะท้านไปทั้งหน้าผา หูไม่ได้ฝาด เสียงนั้นเป็นเสียงของมนุษย์หญิง ที่ได้รับความเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัส!
เพชรพระอุมา เล่ม 13 ตอน อาถรรพณ์นิทรานคร book cover
#13

เพชรพระอุมา เล่ม 13 ตอน อาถรรพณ์นิทรานคร

2004

สตรีสาวนางนั้น งามจากเส้นผมจรดปลายเท้า เยี่ยงนางในสามโลกของวรรณคดี ฉวีกายของนางเปล่งปลั่งผุดผ่องดูนุ่มเนียนราวกับกลีบกุหลาบเมื่อแรกแย้มรับแสงอรุณ เบื้องอุระประเทศอันเปลือยเปล่า ประดับไว้แต่เพียงสังวาลเพชร และสายใข่มุก ประทุมถันเต่งตั้งชูชันงามสะพรั่งเกลี้ยงเพลาประดุจสลักเสลาด้วยงาช้าง และมีปลายยอดเป็นสีชมพูเรื่อ ความงามอันสูงส่งสาดให้โลกที่พบเห็นตะลึงลานนั้น อยู่ในอาภรณ์เครื่องประดับนางกษัตริย์เพียบพร้อมไปด้วย ถนิมพิมพาภรณ์จากเส้นเกศาลงไปจนกระทั่งปลายบาท มงกุฎที่ประดับด้วยแก้วเก้า สังวาล ทับทรวง ทองกร ธำมรงค์ ปลอกแขน แพรวพราววาววับไปหมด แขนทั้งสองวางราบแนบสนิทอยู่ชิดกายในท่านิทราอันสงบ ภายใต้ครอบแก้วอันเป็นโลกน้อยๆ ของนางนี้ มลังเมลืองสดใสเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผิดกับสภาพอันเก่าแก่ปรักหักพังที่แวดล้อมอยู่เบื้องนอก ประหนึ่งว่าจะรักษาความเป็นอมตะไว้ชั่วนิรันดร์
เพชรพระอุมา เล่ม 17 ตอน ป่าโลกล้านปี book cover
#17

เพชรพระอุมา เล่ม 17 ตอน ป่าโลกล้านปี

2004

เงาปีกอันเป็นพืดหนังประกอบด้วยเล็บอันแหลมคม กระพือตัดอากาศตรงเข้ามาราวกับลมเพชรหึง ห่างขึ้นไปเบื้องบนศรีษะไม่เกิน 100 หลา แต่ละปีกที่กางแผ่ออกไปนั้น ยาวเหยียดรวม 20 ฟุต จะงอยปากอันแหลมคมยาวเป็นวา เหมือนอีกาปากเหล็กในอบายภูมิที่จิตรกรวาดเอาไว้ และหงอยยาวงอนโค้งเหนือศรีษะเป็นตะขออยู่เบื้องหลัง "กระจายออก ยิงปะทะไว้เร็ว" ระพินทร์ตะเบ็งเสียงแข่งกับลมปีกทีอื้ออึงอยู่เหนือศรีษะ และเสียงกรีดที่ร้องประดุจเปรตขอส่วนบุญก้องไปหมดนั้น พร้อมกับผลักดาริน ผู้มัวยืนตะลึงจ้องตาค้างอยู่ ศรีษะปักหลุนๆ จากท่าที่ยืนจังงังเป็นเป้าเด่นอยู่เข้าไปที่โคนไม้ใหญ่ข้างทางเสียงแช่ส่ำ ประสานไปกับเสียงระเบิดของกระสุนที่กระหน่ำสู่เป้าหมาย "เทอโรซอร์" อสูรกายเวหา! ที่กำลังไล่ล่ามนุษย์ทุกชีวิตอย่างกระหายหิว!
เพชรพระอุมา เล่ม 21 ตอน แงซายจอมจักรา book cover
#21

เพชรพระอุมา เล่ม 21 ตอน แงซายจอมจักรา

2004

รุษหนึ่งผู้มีรูปโฉมงามปานเทพ ทอดเนตรประดุจสีเหล็กมองมา ริมโอษฐ์คู่นั้นประหนึ่งจะแย้มน้อยๆ ขณะนั้นคลับคล้ายคลับคลาว่า ทุกคนที่ยืนม้าอยู่จะลงจากหลังม้าจนหมดสิ้นแล้ว เพื่อคุกเข่าลงพื้นถวายคารวะ ฝ่ามือที่แบเหยียด ชูสูงรับแสงอาทิตย์ของเขา เกิดประกายประหลาดหลากๆ สี และมีเสียงคำรณแว่วมาแต่ไกลทางด้านเทวาลัยอันเป็นที่สถิตของประสาทพระอุมาเทวี ตะวันที่เพิ่งจะโผล่พ้นทิวเขามาเล่า ก็สำแดงปรากฎการณ์ทรงกลดเป็นวงกลม ดูเป็นที่ประหลาดมหัศจรรย์นัก พวกเขาทั้งหลายพากันทรุดกายลงคุกเข่า เอาปลายดาบปักกับพื้น เป็นการแสดงความเคารพอย่างสูง เยี่ยงข้าทหารจะพึงปฎิบัติต่อกษัตริย์ ผู้เป็นจอมทัพ ฉะนั้น!
เพชรพระอุมา เล่ม 25 ตอน จอมพราน book cover
#25

เพชรพระอุมา เล่ม 25 ตอน จอมพราน

2004

ผู้คนยกย่องว่าเขาคือสุภาพบุรุษ และตํานานอันยิ่งใหญ่แห่งพงไพร นาม "รพินทร์ ไพรวัลย" นั้น เกริกเกียรติเกรียงไกร เขารู้จัก "ป่า" ทุกตารางนิ้ว คุ้นเคยกับสัตว์ทุกชนิดในป่าดงดิบแถบนี้ พวกมันรู้จักหน้าและจํากลิ่นเขาได้ทุกตัว เขาคือ "เจ้าป่า" อย่างแท้จริง และเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นเพียงผู้เดียวที่บุกบั่นเข้าไปจนถึงความลี้ลับเบื้องหลังเทือกเขาพระศิวะ พร้อมทั้งนําคณะภายใต้ความรับผิดชอบกลับคืนออกมาได้ จึงไม่แปลกอะไร หากหนึ่งเดียวเช่นเขา จะได้รับการยกย่องจากทุกป่าให้เป็น "จอมพราน" แห่งไพรกว้าง
เพชรพระอุมา เล่ม 28 ตอน จอมพราน book cover
#28

เพชรพระอุมา เล่ม 28 ตอน จอมพราน

2004

ตลอดเรือนร่างของอิสซาเบล มูร์ เปลือยเปล่าปราศจากอาภรณ์ใดแม้สักชิ้นเดียว ร่างนั้นยืนนิ่งอยู่กับที่ มือข้างหนึ่งยังถือบราเซียร์ค้างอยู่ เสื้อผ้าที่ถอดออกจากกายยังกองรวมอยู่กับพื้นข้างตัว อกชะเงื้อมราวภูเขาที่เคยซ่อนอยู่ในเสื้อคอวี กว้างลึก บัดนี้ กระจ่างตา แต่นั่น...หาใช่สิ่งที่ทําให้หัวใจเขาแทบจะหยุดเต้นไม่ อีกสิ่งหนึ่งต่างหาก ที่ทําให้ตัวของพรานใหญ่ ชาดิก มือกระชับปืนมั่น มันคือจงอาง! ลําตัวขนาดหน้าแข้งของผู้ชายร่างใหญ่ มัจจุราชร้าย ผู้ไม่มีตีนแห่งดงดิบ!
เพชรพระอุมา เล่ม 35 ตอน จิตรางคนางค์ book cover
#35

เพชรพระอุมา เล่ม 35 ตอน จิตรางคนางค์

2004

ร่างงามของคริสติน่าท่อนบนยังอยู่ในแจ็กเกตหนัง ท่อนล่างเป็นกางเกงหนา แต่ผ้ายืดแบบชุดวอร์ม หล่อนหยุดยืนสูดลมหายใจบริสุทธิ์ยามเช้า แล้วควักบุหรี่ออกมาสูบช้าๆ เขาพิศดูทรวดทรงอันยืนเด่น เพ่งมองสัดส่วนอันงดงาม อย่างประทับใจอยู่เช่นนั้น ความรัก บัดนี้ท่วมท้นเสียแล้วสําหรับหนุ่มไทย หล่อนคือ "ของเขา" และจะต้องเป็น "ของเขา" ตลอดไป หัวใจมันร่ำร้องอยู่เช่นนั้น รสเสนหาที่ผ่านมาในถ้ำเมื่อคืนวาน ดื่มด่ำากําซาบทรวงขีดสุด ชนิดที่เขาไม่เคยได้พบจากผู้หญิงคนใดมาก่อน
เพชรพระอุมา เล่ม 44 ตอน แต่ปางบรรพ์ book cover
#44

เพชรพระอุมา เล่ม 44 ตอน แต่ปางบรรพ์

2004

กลิ่นเจ้าล่องลมพลิ้วพรมมาแห่งนี้ กลิ่นเจ้ายวนยีฤดีให้ป่วนปั่น กลิ่นเจ้าดลใจโน้มน้าวในฤทัยฝัน ภพชาติแต่เบื้องบรรพ์ นึกได้โดยฉับพลัน กลิ่นทิพย์ผูกพันสวรรค์ดลใจ "หม่อมฉันไม่หวาดหวั่นใดๆ ทั้งสิ้น รับปากซิเพคะ ในดวงพระทัยของอัคนีรุทร์ จะมีแต่จิตรางคนางค์เพียงนางเดียว หม่อมฉันไม่ปรารถนาราไชยไอศูรย์ หรือราชบัลลังก์สวรรค์ชั้นฟ้าใดๆ ทั้งสิ้น ต้องการเพียงขอให้ได้รัก และได้อยู่กับผู้ที่ตนเองรักเท่านั้น ชาติใด ภพใด ขอให้หม่อมฉันได้อยู่ในอ้อมกอดของอัคนีรุทร์เช่นนี้ตลอดไป สัญญาซิเพคะ" “พี่ให้สัญญา ขอรักจิตรางคนางค์ทั้งชาตินี้ ของเป็นทาสรักของจิตรางคนางค์ ไปทุกชาติ”

Author

พนมเทียน
พนมเทียน
Author · 18 books

ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ (23 พฤศจิกายน 2474 - 21 เมษายน 2563) นักเขียนนวนิยายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของไทย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2540 เป็นเจ้าของนามปากกา พนมเทียน ผู้แต่ง เพชรพระอุมา ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ เกิดที่จังหวัดปัตตานี เป็นบุตรคนสุดท้องของขุนวิเศษสุวรรณภูมิ กับนางสะอาด รัตนกุล เริ่มเขียนนวนิยายเรื่องแรกตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เรื่อง “เห่าดง” ลงในสมุดอ่านกันเล่น เมื่อ พ.ศ. 2484 นอกจากเขียนนวนิยายแล้ว ฉัตรชัยยังเป็นคอลัมนิสต์เขียนบทความเกี่ยวกับอาวุธปืน ในหนังสือพิมพ์และนิตยสารบางฉบับด้วย โดยใช้ชื่อจริง และนามปากกา "ก้อง สุรกานต์"

548 Market St PMB 65688, San Francisco California 94104-5401 USA
© 2025 Paratext Inc. All rights reserved